หนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์รายงานว่า นักมังสวิรัติที่อายุยืนที่สุดในโลก คือ หลี่ชิงอวิ๋น (李清云 Li Qingyun ค.ศ. ๑๖๗๗-๑๙๓๓) เขามีชีวิตอยู่บนโลกนานถึง ๒๕๖ ปี เป็นนักวิชาการด้านการแพทย์แผนจีนในช่วงปลายยุคราชวงศ์ชิงถึงต้นยุคสาธารณรัฐจีน เป็นผู้มีอายุยืนยาวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
ทุกวันนี้เรามักจะเห็นข่าวในทีวีว่ามีคนอายุยืน ๑๒๐ ปีบ้าง ๑๖๐ ปีบ้าง นั่นยังไม่น่าตื่นเต้นเท่าไร เพราะหลี่ชิงอวิ๋นมีชีวิตอยู่ถึง ๒๕๖ ปี และเขาเป็นนักมังสวิรัติด้วย ตอนที่เขามีอายุ ๑๐๐ ปี (ค.ศ. ๑๗๗๗) ประสบความสำเร็จอย่างมากด้านการแพทย์และเวชกรรมแผนจีน และได้รับรางวัลด้านนี้จากทางการด้วย และตอนที่เขามีอายุ ๒๐๐ ปี ยังคงไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยอยู่เสมอ ในช่วงนี้เองเขาได้ตอบรับการขอเข้าพบของนักวิชาการจากชาติตะวันตกหลายครั้ง เขาได้ให้ความเห็นถึงสาเหตุที่ทำให้ตัวเขามีอายุยืนและแข็งแรงไว้สามประการ คือ ๑. กินมังสวิรัติ ๒. จิตใจสงบและเบิกบาน ๓. กินน้ำต้มเมล็ดเก๋ากี้แทนน้ำชาอยู่เสมอ
เรื่องราวชีวิต
ตามประวัติที่รับรู้กันเป็นส่วนใหญ่กล่าวว่า หลี่ชิงอวิ๋นเกิดเมื่อปี ค.ศ. ๑๖๗๗ ที่ตำบลฉีเจียง (綦江) มณฑลเสฉวน และเล่ากันว่าเขาได้ใช้เวลาทั้งชีวิตในการเก็บรวบรวมสมุนไพรจีนและเรียนรู้เคล็ดลับการมีอายุยืน ในปี ค.ศ. ๑๗๔๙ หลี่ชิงอวิ๋นซึ่งมีอายุได้ ๗๒ ปีได้สมัครเข้าเป็นทหาร และได้เป็นครูฝึกวิชาการต่อสู้และเป็นที่ปรึกษาด้านยุทธวิธีการรบด้วย
ในปี ค.ศ. ๑๙๒๗ เขาได้รับเชิญจากนายพลหยางเซินให้ไปพบที่บ้านที่ตำบลว่านเซี่ยน (万县) นายพลหยางเซินรู้สึกประทับใจในความเป็นผู้สูงอายุที่แข็งแรงและความเก่งกาจในการเก็บสมุนไพรของผู้เฒ่าหลี่เป็นอย่างยิ่ง ภาพถ่ายอันโด่งดังของเขาก็ถ่ายจากที่นี่แหละ หลังจากนั้นไม่นานผู้เฒ่าหลี่ก็ลาจากโลกไป บางคนเล่าว่าเขาตายจากไปด้วยความชราตามธรรมชาติ แต่มีบางคนเล่าว่า เขาเคยบอกกับเพื่อนไว้ว่า "เมื่อข้าได้ทำเรื่องที่ต้องทำหมดแล้ว ข้าก็จะกลับบ้านทันที (หมายถึงการตาย)"
ในปี ค.ศ. ๑๙๓๓ หลังจากเขาเสียชีวิต นายพลหยางเซินได้ส่งคนไปตรวจสอบภูมิหลังและอายุที่แท้จริงของเขา และได้ทำเป็นรายงานออกมาฉบับหนึ่งมีชื่อว่า "บันทึกเรื่องจริงของผู้สูงอายุที่มีอายุยืน ๒๕๐ ปี" ในรายงานฉบับนี้ นายพลหยางเซินได้บรรยายลักษณะของเขาไว้ดังนี้ "หลี่ชิงอวิ๋นมีสายตาที่ดีมาก การเดินเหินมั่นคงแข็งแรง สูงเจ็ดฟุตจีน ไว้เล็บยาวมาก และมีผิวพรรณสดใส" ในปีเดียวกันนั้น ชาวมณฑลเสฉวนบางคนที่ถูกสัมภาษณ์บอกว่าพวกเขารู้จักหลี่ชิงอวิ๋นมาตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็กแล้ว จนถึงวันที่พวกเขาเป็นผู้เฒ่าแล้วนี้หลี่ชิงอวิ๋นยังดูไม่แก่และไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่เลย มีบางคนบอกว่าหลี่ชิงอวิ๋นเคยเป็นเพื่อนกับปู่ของเขาด้วย
หนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์ระบุว่า ในปี ค.ศ. ๑๙๓๐ ศาสตราจารย์หูจงเชียน (胡忠谦) แห่งมหาวิทยาลัยเฉิงตูอ้างว่าได้พบหลักฐานเกี่ยวกับปีเกิดของเขาแล้ว โดยชี้ว่าเขาน่าจะเกิดในปี ค.ศ. ๑๖๗๗ เพราะในปี ค.ศ. ๑๘๒๗ รัฐบาลสมัยราชวงศ์ชิงได้จัดงานฉลองอายุครบ ๑๕๐ ปีให้แก่เขาด้วย นอกจากนี้ นิตยสารไทม์ได้บรรยายว่า เล็บที่นิ้วมือขวาของเขามีความยาวถึง ๖ นิ้ว (ประมาณ ๑๕.๒๓ เซ็นติเมตร)
หลี่ชิงอวิ๋นอุทิศชีวิตทั้งชีวิตให้กับการศึกษาสมุนไพรและเคล็ดลับการมีอายุยืน เขาเคยเดินทางไปทั่วทั้งในและต่างประเทศ มีทั้งมณฑลกานซู ส่านซี ธิเบต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน รวมไปถึงเวียดนามและไทยด้วย เขาได้เก็บรวบรวมโสม เห็ดหลิงจือ และสมุนไพรต่าง ๆ มากมาย และขายสมุนไพรเหล่านั้นเป็นอาชีพ สมุนไพรที่ขายมีทั้งที่เขาเก็บมาเองและที่ผู้อื่นเก็บมาส่งขายให้เขาด้วย
เคล็ดลับการมีอายุยืน
เขาคิดว่าการที่ตัวเขามีอายุยืนยาวเกิดจากเหตุปัจจัย ๓ ข้อ ได้แก่
๑. กินอาหารมังสวิรัติอย่างต่อเนื่อง
๒. ทำใจให้สงบและเบิกบานอยู่เสมอ
๓. ดื่มน้ำที่ชงจากใบบัว เมล็ดชุมเห็ดจีน (决明子) หล่อฮั่งก้วย (罗汉果) เก๋ากี้ (枸杞) แทนน้ำชาเป็นประจำ
"รักษาเส้นทางระบายพิษของร่างกายให้โปร่งโล่งอยู่เสมอ ได้แก่ ทางเลือด ทางปัสสาวะ และทางอุจจาระ" นี่ก็เป็นเคล็ดลับการมีอายุยืนที่หลี่ชิงอวิ๋นเหลือทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังเช่นกัน เขาเชื่อว่าการทำจิตใจให้สุขสงบและเปิดทางระบายพิษของร่างกายทั้งสามทางให้โล่งอยู่เสมอเป็นเคล็ดลับที่จำเป็นสำหรับการมีอายุยืนยาว อาหารหลักของเขาคือข้าวกับเหล้าองุ่นเล็กน้อย
การดื่มชาสมุนไพรเพื่อสุขภาพได้มีบันทึกไว้ในตำรายาแผนจีนมานานแล้ว มีบันทึกว่าเมล็ดชุมเห็ดจีนมีสรรพคุณลดไขมันในเลือด ช่วยให้ดวงตาสดใสขึ้น ใบบัวมีสรรพคุณลดการอักเสบ ขับปัสสาวะ หล่อฮั่งก้วยมีสรรพคุณช่วยให้ถ่ายง่ายขึ้น ชำระล้างลำคอและปอดให้สะอาดขึ้น
วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ค.ศ. ๑๙๓๓ นิตยสารไทม์มีบทความเรื่องหนึ่งชื่อว่า "เต่า นกพิราบ สุนัข" (Tortoise-Pigeon-Dog) ได้เขียนถึงเรื่องราวและประวัติของหลี่ชิงอวิ๋นว่า เขาได้ให้เคล็ดลับในการมีอายุยืนเอาไว้ว่า "รักษาจิตใจให้สงบ นั่งให้เหมือนเต่า เดินให้เหมือนนกพิราบ และนอนให้เหมือนสุนัข"
ปี ค.ศ. ๑๙๒๘ หลี่ชิงอวิ๋นได้เขียนหนังสือไว้เล่มหนึ่งชื่อว่า "เคล็ดลับการมีอายุยืนและไม่แก่" เขาไม่ได้บอกไว้ในหนังสือว่าเขามีอายุเท่าไร แต่ได้บรรยายปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัวเองมีอายุยืนว่าอยู่ที่การออกกำลังกายแบบชี่กง หลี่ชิงหยุนได้เสนอเคล็ดวิชาการออกกำลังขายของเขาคือ "อ่อนแข็งประสานกัน หยินหยางสอดคล้องสมดุล" และเขาเชื่อว่าการที่ตัวเขาแข็งแรงมีอายุยืนมาจากสาเหตุสามประการคือ ๑. กินอาหารมังสวิรัติอย่างต่อเนื่อง ๒. ทำจิตใจให้สงบและเบิกบานอยู่เสมอ ๓. ต้มน้ำกับเมล็ดเก๋ากี้กินแทนน้ำชาอยู่ประจำ
คำร่ำลือ
เล่ากันว่าหลี่ชิงอวิ๋นเป็นวิชากังฟู มีอาชีพขายสมุนไพร แต่งงานมีภรรยา เขามีวิถึชีวิตต่างจากคนทั่วไป ไม่ดื่มเหล้า ไม่ดื่มชา ไม่สูบบุหรี่ กินข้าวเป็นเวลาและกินตามปริมาณที่กำหนด นอนเร็วตื่นเร็ว เวลาว่างจะนั่งหลับตานิ่ง สองมือวางบนเข่า ศีรษะตั้งตรงและยืดอก และอยู่ในท่านั้นเป็นเวลานานหลายชั่วโมง นิ้วมือซ้ายไว้เล็บยาว และมักจะใช้กระบอกไม้ไผ่เล็ก ๆ ครอบเล็บเอาไว้เพื่อป้องกัน เมื่อเล็บยาวประมาณ ๖ นิ้วจึงจะตัดทีหนึ่งแล้วเก็บเล็บนั้นไว้ในกล่องไม้ ตอนที่เขาเสียชีวิตยังเหลือกล่องเก็บเศษเล็บอยู่กล่องหนึ่งด้วย
หลี่ชิงอวิ๋นปกติเป็นคนพูดน้อย ไม่เคยพูดเรื่องไร้สาระ เวลามีคนมาถามอายุจะตอบแค่ว่าสองร้อยกว่าปี จริง ๆ แล้วเขาเกิดในสมัยใด ปีไหน ที่ไหนนั้นไม่มีใครรู้ แม้เขาจะมีภรรยา แต่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพียงแต่ให้ภรรยาซักเสื้อผ้าและทำอาหารให้เท่านั้น เขามีความเชี่ยวชาญในการแพทย์ด้านดวงตาและกระดูก ปี ค.ศ. ๑๘๒๐ ได้จ้างลูกน้องอายุ ๔๐ ปีหนึ่งคนให้ช่วยงานในการคัดเลือกสมุนไพร ปกติเขาจะออกเดินทางไปตามชนบทเพื่อรักษาโรค คิดค่ารักษากับคนรวยอย่างแพงเพื่อเป็นเงินใช้จ่ายในครอบครัว เมื่อมีเวลาว่างมักจะแวะไปที่ร้านค้าในท้องถิ่นเพื่อเล่นไพ่กับเพื่อน และทุกครั้งก็จะแพ้เสียเงินประมาณ ๑๒๐ เหวิน (หน่วยเงินจีนในสมัยก่อน) เสมอ ให้เพื่อนที่เล่นด้วยได้เงินซื้อข้าวกินในวันนั้นก็พอ หลี่ชิงหยุนเป็นคนจิตใจกว้างขวาง ไม่เคยแสดงอาการโกรธ ทำให้เพื่อนบ้านรู้สึกเป็นมิตรด้วย จึงพากันเรียกเขาว่า อาจารย์หลี่เอ้อร์ (หมายถึงอาจารย์หลี่ที่สอง เพราะเคยมีชายชราคนหนึ่งมาจากเซี่ยงไฮ้ได้มาเยี่ยมที่นี่แล้วอ้างว่าเป็นพี่ชายของเขา)
ที่มา http://rufodao.qq.com/a/20140626/018658.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น