9 ต.ค. 2560

ชีวิตที่เปลี่ยนไปกินมังสวิรัติ



        ใกล้จะครบสามเดือนแล้วที่ฉันได้เลิกกินเนื้อสัตว์ บางคนคิดว่าฉันเลิกเนื้อสัตว์เพื่อรักษาสุขภาพ บางคนก็คิดว่าฉันต้องการรักษารูปร่างไม่ให้ดูอ้วน แต่เหตุผลที่แท้จริงนั้นคือการได้พัฒนาจิตใจที่มีเมตตาในฐานะสาวกของพระพุทธเจ้า ให้มีความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้น มันเกิดจากความเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าเราไม่ควรเบียดเบียนเอาชีวิตสัตว์เหล่านั้นมาเป็นอาหารเพื่อเสพรสความอร่อยที่เป็นความสุขอยู่แค่ชั่วคราวเท่านั้น เราไม่ควรเห็นแก่ความสุขส่วนตัวด้วยการพรากเอาชีวิตลูกหรือชีวิตพ่อแม่ของสัตว์เหล่านั้นมาเลย

        ตอนเป็นเด็กฉันเคยเห็นเขาฆ่าเป็ดฆ่าไก่อยู่บ่อย ๆ ตอนนั้นฉันมักจะชอบนั่งดูอยู่ข้าง ๆ เห็นเขาเชือดคอมันก่อน แล้วปล่อยให้เลือดไหลออกมา ระหว่างนั้นมันจะยังคงดิ้นกระเสือกกระสนอยู่ จนเลือดไหลออกมาหมดแล้วเขาก็จับมันแขวนไว้สักพัก จนร่างมันหยุดนิ่งไม่ดิ้นกระตุกอีกแล้ว จึงนำไปลวกด้วยน้ำเดือด ถอนขน ควักเอาไส้และเครื่องในออก... ในสมัยนั้นฉันยังไม่รู้สึกหรอกว่ามันเป็นการทารุณอะไร แถมยังคอยเฝ้าดูอย่างสนอกสนใจอีกด้วย พอได้ยินว่าเพื่อนบ้านหลังไหนจะเชือดเป็ดเชือดไก่ฉันก็มักจะวิ่งตามไปดูอยู่เสมอ ๆ

        พอโตขึ้นและได้มีวาสนามาพบกับศาสนาพุทธ จึงได้เริ่มเรียนรู้เหตุผลของการเกิดมาเป็นมนุษย์ทีละเล็กทีละน้อย คำสอนที่มีอิทธิพลต่อฉันมากที่สุดคือ ต้องทำกุศลให้มาก มีจิตของผู้ให้ที่ไม่เห็นแก่ตัว มีเมตตา ช่วยเหลือคนให้เป็นสุข เรียนรู้การยอมรับผิดและสำนึกบาป และก็แน่นอน ฉันเข้าใจดีว่าทำไมพระอาจารย์ที่วัดและอุบาสกบางท่านจึงกินมังสวิรัติกันเป็นปกติ

        ส่วนตัวฉันเองนั้นมีความรู้สึกยินดีเสมอในการทำกุศล แม้ว่าในชีวิตเรายังจะต้องเจอเรื่องผิดหวังต่าง ๆ นานาอีกมาก มีอยู่หลายครั้งเหมือนกันที่เราทำดีแล้วถูกตอบแทนกลับมาในทางตรงกันข้าม แต่เรื่องแบบนี้ก็ไม่เคยสั่นคลอนทัศนคติในการทำบุญกุศลของฉันเลย ไม่เหมือนบางคนที่มีศรัทธาในศาสนาก็เพื่อความปรารถนาบางอย่าง เช่น บางคนเชื่อว่า "คนทำดีย่อมได้ผลดีตอบแทน" จึงหวังว่าเมื่อตนทำกุศลบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วสักวันหนึ่งจะร่ำรวยขึ้นมาได้ หรือบางคนมีคนในครอบครัวเจ็บป่วย พอได้รับคำแนะนำมาจึงไปทำกุศลเพื่อสั่งสมเป็นอานิสงส์และหวังว่ามันจะกลายเป็นปาฏิหาริย์มาช่วยคนป่วยให้หายจากโรคได้ แต่ความเชื่อและการทำกุศลของฉันไม่ได้มีเป้าหมายอย่างนั้น ฉันเพียงแต่ต้องการที่จะให้และสละออกไปเท่านั้น ฉันคิดว่าการทำดีน่าจะสามารถสร้างความยินดีและเป็นสุขให้แก่ทุกคนได้ สามารถลดความทุกข์และความไม่สบายใจของทุกคนได้ ฉันไม่ได้ต้องการแลกเปลี่ยนหรือมีความโลภอยากได้สิ่งใดมาตอบแทน

        เดิมทีที่บ้านฉันก็กินทั้งเนื้อสัตว์และพืชผักปน ๆ กันไปเหมือนคนส่วนใหญ่ นอกจากนี้พ่อกับแม่ยังเป็นคนที่ไม่ค่อยเสียดายเงินทองกับเรื่องอาหารการกินเสียด้วย ทั้งเป็ด ไก่ ปลา และเนื้อ เราจะมีกินกันแทบทุกวัน แถมยังเลือกซื้อแต่ของดี ๆ ทั้งนั้นด้วย ช่วงนั้นแม้ว่าฉันจะได้นับถือศาสนาพุทธแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ค่อยได้คิดอะไรมากในเรื่องนี้ คือเนื้อสัตว์ไม่ว่าจะซื้อมาแบบยังไม่ตายหรือแบบที่ตายแล้วเราก็กินทั้งหมด แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มีเหตุให้ได้รับคำชี้แนะจากพระอาจารย์ที่วัดว่าอย่ากินแบบที่ต้องฆ่าสด ๆ ถ้าจะกินจริง ๆ ก็ควรเลือกกินสัตว์ที่ไม่มีเลือด เช่นพวกกุ้งเป็นต้น หลังจากนั้นเราก็แทบไม่ได้ซื้อสัตว์แบบเป็น ๆ กลับมาฆ่าเองที่บ้านอีกเลย ถ้าไม่ซื้อแบบที่ตายอยู่ก่อนแล้วก็จะสั่งเอาไว้แล้วจ่ายเงินไปก่อน รอเขาฆ่าเสร็จแล้วค่อยกลับมาเอาอีกที (จริง ๆ แล้วฉันก็คิดอยู่เสมอว่าทำแบบนั้นมันก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าเองอยู่ดี) ถึงแม้ว่าฉันจะเริ่มมีจิตสำนึกถึงความเมตตาเอ็นดูสัตว์ขึ้นมาบ้างแล้วก็ตาม คือเห็นพวกมันตายแล้วถูกเอาไปปรุงเป็นอาหารก็รู้สึกอยู่บ้างว่าไม่สบายใจ แต่ฉันก็ยังติดรสอร่อยอยู่จึงไม่ยอมเลิกกินมัน ตอนนั้นคิดไม่ออกเลยว่าจะไม่กินเนื้อได้อย่างไร ฉันคงทำไม่ได้แน่ ๆ

        มีอยู่ครั้งหนึ่งพ่อพาฉันไปเที่ยวบ่อตกปลา ตอนเที่ยงเราสั่งให้เขาทำเนื้อห่านน้ำแดงมาหนึ่งจาน ได้ยินเขาบอกว่าเป็นห่านที่เลี้ยงมานานสองปี ทำมาได้รสชาติดีมาก อร่อยมาก พอตอนบ่ายขณะกำลังตกปลากันอยู่ เห็นเป็ดฝูงหนึ่งว่ายน้ำผ่านมา ตามมาด้วยห่านอีกฝูงหนึ่ง พอพวกเป็ดมันเห็นห่านว่ายตามมาเท่านั้นก็ว่ายหนีกันใหญ่ ห่านก็ว่ายไล่ตามไปติด ๆ ฉันเห็นแล้วก็ขำดี นึกในใจว่าคงเป็นเพราะห่านมันตัวใหญ่กว่าเป็ดมากจึงทำให้เป็ดกลัวพวกมัน คิดไม่ถึงว่าระหว่างพวกสัตว์ด้วยกันเองก็ยังมีการใช้อำนาจข่มเหงรังแกกันด้วย ฉันยังสังเกตเห็นด้วยว่า ไม่ว่าจะเป็นฝูงห่านหรือฝูงเป็ดล้วนมีตัวที่ใหญ่ที่สุดเป็นผู้นำของตัวอื่น ๆ ที่เล็กกว่า ตัวที่ใหญ่ที่สุดนั้นน่าจะเป็นแม่ของพวกมัน ทำให้ฉันนึกถึงตอนเป็นเด็กที่บ้านเราก็เคยเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่เหมือนกัน จำได้ว่าพอเราเปิดประตูเล้าออกแล้วร้องบอกพวกมันให้รู้เท่านั้น แม่ไก่ก็จะเดินนำลูก ๆ ออกมาหาอาหารกิน คราวนั้นมีเด็กคนหนึ่งอยากจะเข้าไปลูบตัวลูกไก่เล่น พอแม่ไก่เห็นเข้าก็พุ่งออกมาจะจิกเขาทันที

        ภาพในความทรงจำเหล่านี้ทำให้ฉันเข้าใจเป็นครั้งแรกว่า สัตว์ก็มีความรู้สึกผูกพันกับครอบครัวเครือญาติของมันเหมือนกับคน ตอนนั้นเองที่ฉันคิดถึงห่านตัวที่ฉันเพิ่งกินลงไปในท้อง คิดถึงตอนที่มันถูกฆ่าว่าจะมีความรู้สึกอย่างไร มันกลัวมั้ย? เคียดแค้นมั้ย? ห่วงหาอาวรณ์ลูก ๆ ของมันมั้ย? แล้วลูก ๆ ของมันที่เห็นแม่ของตัวเองต้องถูกฆ่าล่ะ พวกมันจะรู้สึกอย่างไร พวกมันพูดไม่ได้ และเราก็ไม่รู้ว่าพวกมันคิดอะไรอยู่ คนจำนวนมากอาจจะรู้สึกแค่เพียงว่าไม่ใช่เราเสียหน่อยที่ต้องถูกฆ่า แล้วจะคิดมากให้มันเปลืองสมองไปทำไม แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ฉันจมอยู่ในความคิดนานพอสมควรทีเดียว นับตั้งแต่นั้นมาฉันจึงได้ขอร้องกับคนในบ้านว่าเวลาไปซื้ออาหารอย่าซื้อสัตว์เป็น ๆ มาอีกเลย 

        ในช่วงเวลาสองปีมานี้ฉันได้ฝึกสร้างนิสัยการออกกำลังกายให้เป็นประจำ ปกติจะวิ่งไปตามถนนหลังบ้านที่ร่มรื่น และมักจะได้เห็นฝูงเป็ดที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้เดินผ่านเส้นทางนี้เป็นประจำ เป็ดตัวใหญ่เดินนำหน้า เป็ดตัวเล็ก ๆ เดินตาม ส่ายก้นไปมาดุกดิกและมองหาอาหารกิน ทุกครั้งที่เห็นพวกมันฉันก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ เพราะฉันเห็นไปถึงความสามัคคี เห็นความผูกพันรักใคร่ที่เรียบง่าย แต่พอนึกถึงจุดจบในชีวิตของพวกมันที่จะถูกยกขึ้นไปเสิร์ฟบนโต๊ะอาหารแล้ว ฉันจะเกิดความรู้สึกสลดใจขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก รู้สึกว่าความสุขสั้น ๆ นี้มันช่างโหดร้าย สู้อย่าเอาพวกมันมาเลี้ยงดูเสียเลยจะดีกว่า

        ช่วงหนึ่งที่ฉันได้ไปร่วมทำงานที่ศูนย์บริการโลหิต ได้รู้จักกับอาสาสมัครที่มีประสบการณ์สองท่านคืออาจารย์ข่งกับพี่วัง พวกเขาเป็นนักปฏิบัติธรรมที่มีความตั้งใจเอาจริงมาก และยังเป็นนักมังสวิรัติแบบเคร่งครัดด้วย พวกเขาคุยกับฉันในเรื่องที่เกี่ยวกับศาสนาพุทธเยอะมาก รวมถึงเรื่องมังสวิรัติด้วย บอกตามตรงเลย ตอนนั้นฉันเห็นด้วยอย่างมากในเรื่องของการทำกุศลและการทำดีให้แก่โลก แต่ยังไม่ค่อยเห็นด้วยเรื่องการกินมังสวิรัติ ถึงแม้ว่าฉันจะนับถือพวกเขามากที่สามารถทำได้ แต่ตัวฉันเองไม่เคยคิดเลยจริง ๆ ว่าจะเดินตามเส้นทางนี้อย่างพวกเขาได้

        แต่สุดท้ายฉันก็เดินมาตามทางนี้มาจนได้ กลายเป็นนักมังสวิรัติไปกับเขาด้วย เรื่องนี้ต้องยอมรับว่าได้อานิสงส์มาจากการแนะนำของอาจารย์ข่งและพี่วังจริง ๆ และทำให้ได้เข้าใจธรรมะข้อหนึ่งอย่างลึกซึ้งว่า "อยู่ใกล้ชาดก็ติดแดง อยู่ใกล้น้ำหมึกก็ติดดำ" หลาย ๆ ครั้งที่เราจะถูกเหนี่ยวนำไปตามหมู่กลุ่ม ถ้าเราอยู่ในกลุ่มคนที่ไม่ดี ไม่มีศีลธรรม ต่อให้ในใจเราไม่อยากทำตามพวกเขา ก็ยังคงได้รับอิทธิพลมาบ้าง หรืออาจเผลอตัวถลำลึกไปมากจนถึงขั้นถอนตัวไม่ขึ้นก็เป็นได้ ตรงกันข้าม ถ้าเราอยู่ในกลุ่มคนดีมีศีลธรรม ก็ต้องได้รับการซึมซาบเอาสิ่งดี ๆ มาบ้างไม่มากก็น้อย 

        อาหารที่ฉันกินอยู่ตอนนี้เป็นมังสวิรัติแบบที่ยังกินไข่และนมอยู่ (ovo-lacto vegetarian) คือไม่กินเนื้อสัตว์ทุกชนิด ทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู เป็ด ไก่ ปลา กุ้ง หอย ฯลฯ แต่ยังกินไข่และนมตามปกติ ฉันรู้สึกว่าตอนนี้เอาแค่นี้ก็พอแล้ว คือยังสามารถรักษาสมดุลของโภชนาการไว้ได้ และไม่ผิดต่อศรัทธาความเชื่อของตนเองด้วย ฉันปฏิบัติเรื่องการกินอาหารแบบนี้มาจนได้เป็นนิสัยแล้ว ตอนนี้รู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงมาก ช่วงนี้ยังฝึกกายบริหารสร้างกล้ามเนื้อด้วย ถึงแม้ว่าครั้งนี้มันจะเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิตของฉันก็ตาม แต่ฉันก็อยากจะบอกทุกคนด้วยว่าฉันเองก็เป็นแค่คน ๆ หนึ่ง ขึ้นชื่อว่าคนก็ย่อมจะไม่สมบูรณ์แบบ ฉันเองก็ยังมีข้อเสียมากมาย เช่น บางครั้งก็หงุดหงิด บางครั้งก็ประมาทเลินเล่อ ...

        ฉันคิดว่าคนเราควรเรียนรู้ที่จะมีความพอในการเสพสุขของตนเอง แต่ในการแสวงหาสัจธรรมและพัฒนาชีวิตให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นนั้น เราควรจะพากเพียรเรียนรู้ไปอย่างไม่ยอมที่จะเบื่อ ถ้าอยู่จนแก่ก็จะเรียนรู้ไปจนแก่เหมือนกัน ฉันไม่คิดว่าการชักชวนคนอื่นให้มายอมรับทัศนคติของฉันด้วยการพูดโน้มน้าวโดยตรงจะได้ผลดีเท่าไร ฉันเพียงแต่หวังว่าจะเป็นอย่างอาจารย์ข่งและพี่วังที่มีอิทธิพลต่อตัวฉันได้ ด้วยการแสดงพลังงานแห่งสัจจะอย่างเต็มเปี่ยมนี้ออกไป ให้แผ่ออกไปสู่คนรอบข้างโดยไม่ต้องมีเจตนาอะไร ให้มันผสานสอดคล้องไปกับความดีในจิตใจของทุกคน และร่วมมือร่วมแรงพยายามเปลี่ยนโลกใบนี้ไปด้วยกัน
 

ที่มา http://ss.zgfj.cn/JSCS/2016-11-29/17169.html

1 ความคิดเห็น:

  1. ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ​ ตอนนี้ก็กินเหมือน​กัน​ ฝึก​ 5​ วัน​ 7 วัน​ 9​วัน​ 15​ วันบ้าง​ ​ปัจจุบันกินได้เดือนกว่าแล้วค่ะ​

    ตอบลบ

ทำไมผมจึงเลิกกินเนื้อสัตว์

        วันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลาประมาณบ่ายโมง ผมกุมมือแม่อยู่ข้างเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล พร่ำพูดที่ข้างหูของแม่ว่าให้นึกถึงความดี...