29 ต.ค. 2560
ทำไมเราจึงวิตกกังวลกับอนาคตอยู่เสมอ
ทุกครั้งที่เราจะเดินทางหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง เรามักจะกังวลว่าสภาพอากาศจะแย่หรือไม่ กังวลว่าวันพรุ่งนี้ฝนจะตกหรือไม่ ความกังวลใจในทำนองนี้มักเกิดขึ้นบ่อย ๆ แม้ในเรื่องอื่น ๆ ด้วย
ตัวอย่างเช่น เป็นห่วงว่าราคาสินค้าจะแพงขึ้น จึงต้องซื้อของตุนไว้ เป็นห่วงสุขภาพร่างกายของตนเอง จึงต้องกินยาบำรุงหรืออาหารเสริมหลายอย่าง เป็นห่วงอนาคตของลูก ๆ จึงต้องสะสมทรัพย์สินเงินทองไว้มาก ๆ
แม้แต่พฤติกรรมที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องดี ก็ยังมีที่มาจากฐานจิตที่มีความวิตกกังวล อย่างเช่นบางคนชอบแต่งหน้า เสริมความงาม หรือไปทำศัลยกรรม ก็เกิดจากความกังวลใจว่าตนเองยังสวยไม่พอ
อันที่จริง เราทุกคนต่างก็แก่ตัวลงไปเรื่อย ๆ เส้นผมจะหงอกขาว ฟันฟางจะหลุดร่วงหมดปาก ผิวหน้าจะเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น ความกังวลใจอันไม่จำเป็นต่อสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราคิดวิตกอยู่เสมอ และสูญเสียความสามารถในการพิจารณาสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริงของมันไป
ในเรื่องนี้ เราลองมาดูกันว่าพระพุทธเจ้าได้เปิดเผยอะไรให้เราได้รู้บ้าง
ครั้งนั้นมีพราหมณ์ผู้เศร้าโศกผู้หนึ่งมาขอพบพระพุทธเจ้าถึงที่ประทับ เหตุเพราะบุตรสาวอายุเพียง ๑๔ ปีของเขาได้เสียชีวิตด้วยโรคร้ายอย่างกะทันหัน เคราะห์ซ้ำกรรมซัด พืชผลที่เขาเก็บไว้สำหรับครอบครัวก็ถูกไฟไหม้เสียหายจนหมดเกลี้ยง
พราหมณ์ได้รับความทุกข์ร้อนจากเรื่องนี้เป็นอันมาก ทั้งโศกเศร้าและสับสน ถึงขั้นที่จะเสียสติสัมปชัญญะอยู่แล้ว แต่เขาเคยได้ยินมาว่าพระพุทธองค์สามารถแก้ไขความโศกและขจัดความกังวลใจได้ จึงตั้งใจไปขอพบพระพุทธเจ้าให้ช่วย
"ลูกสาวสุดที่รักของข้าพเจ้าได้จากโลกนี้ไปอย่างกะทันหันด้วยโรคร้ายแรง ข้าพเจ้าไม่อาจระงับความโศกเศร้าเสียใจของตนไว้ได้ หวังว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าจะเมตตาให้คำแนะนำแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด"
พระพุทธองค์ทรงชี้แนะว่า "ทุกชีวิตล้วนต้องดับสูญ ผู้ที่อยู่สูงย่อมมีวันตกต่ำ มีพบพานย่อมมีพลัดพราก มีเกิดก็ต้องมีตาย" พราหมณ์ได้ฟังดังนั้นก็เกิดความซาบซึ้งในธรรม และคลายออกจากความทุกข์ระทมที่ลูกสาวเสียชีวิตได้ในตอนนั้นเอง
ทุกครั้งที่เราเกิดมีความทุกข์ร้อนกังวลใจ เราควรถามตัวเองดูว่า ทำไมจึงเกิดความทุกข์กังวลเหล่านี้ขึ้น ความทุกข์กังวลเหล่านี้มันเกิดขึ้นจริง ๆ หรือ?
อันที่จริง ความกังวลใจต่อวันพรุ่งนี้ มักจะเกิดจากการที่เราไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริงซึ่งไม่อาจได้ดังใจของเราเสมอไป หรือเราเอาแต่คิดว่าจะอยู่ในสภาพที่เป็นสุขและปลอดภัยไปตลอดกาล
หากเราหวังพึ่งเอาความสุขที่ต้องอาศัยแต่เหตุปัจจัยภายนอก หรือต้องเติมเต็มความต้องการบางอย่างให้ได้ดั่งใจเสมอไป เราก็จะไม่พ้นที่จะต้องเป็นทุกข์อยู่เสมอนั่นเอง เพราะเหตุปัจจัยภายนอกล้วนแปรเปลี่ยนเป็นอนิจจัง เช่น สภาพอากาศ เดี๋ยวก็แจ่มใสไม่มีเมฆเลย เดี๋ยวก็มีเมฆดำปกคลุมมืดดำ เดี๋ยวก็ฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก
เหตุปัจจัยภายนอกที่แปรเปลี่ยนแบบนี้เราไม่สามารถจะควบคุมอะไรได้เลย และการคาดหวังให้ปัจจัยภายนอกเป็นไปตามความต้องการของเรานั้น เรื่องแบบนี้มักไม่ค่อยจะเป็นจริงดังที่หวังมากนักหรอก มีเรื่องเล่าของพระอาจารย์หงอี (弘一大师) อยู่เรื่องหนึ่ง อาจจะช่วยให้เราเข้าใจประเด็นนี้ได้ดีขึ้น
ครั้งหนึ่งพระอาจารย์ได้เดินทางไปถึงวัดแห่งหนึ่ง ผู้ดูแลต้อนรับของวัดต้องการจะทดสอบภูมิธรรมของพระอาจารย์ จึงทำอาหารมื้อแรกให้อย่างเค็มเป็นพิเศษ
หลังจากฉันอาหารเสร็จแล้ว ผู้ดูแลได้ถามพระอาจารย์ว่ารสชาติอาหารเป็นอย่างไร พระอาจารย์ก็ตอบว่า มีรสเค็มในความเค็ม
วันต่อมา ผู้ดูแลเจตนาใส่เกลือให้น้อย ๆ ปรุงอาหารรสจืดเป็นพิเศษ แล้วเขาก็ถามพระอาจารย์อีกว่ารสชาติของอาหารเป็นอย่างไร พระอาจารย์ตอบว่า มีรสจืดในความจืด
ด้วยเหตุนั้น ผู้ดูแลจึงยอมรับในภูมิธรรมของพระอาจารย์ด้วยความนับถือจริง ๆ เพราะไม่ว่าอาหารจะเค็มหรือจืด พระอาจารย์ก็รับรู้มันด้วยจิตอันเป็นปกติ จิตที่ตั้งมั่นอยู่ในความสงบและผ่องใสอยู่เสมอ
แทนที่จะวิตกกังวลต่อเรื่องในอนาคต สู้เอาสติปัญญามาคิดเรื่องที่เราทำได้ในปัจจุบันดีกว่า โลกนี้ไม่มีแม่น้ำสายใดที่ไม่คดเคี้ยว และไม่มีเส้นทางสายใดที่จะราบรื่นตลอดไป
เส้นทางชีวิตของแต่ละคนต้องพบกับปัญหาหรือความยากลำบากต่าง ๆ เป็นธรรมดา เมื่อพบแล้วก็หาทางแก้ไข เราควรจะเชื่อถือในตัวเราเอง และกล้าที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาในความเป็นจริง ทำได้แบบนี้ชีวิตของเราก็จะมีแต่ความผาสุก
แทนที่จะเป็นห่วงว่าพรุ่งนี้ฝนจะตกหรือไม่ สู้เรียนรู้ที่จะชื่นชมกับชีวิตในสายฝนอย่างสุขสงบดีกว่า ก้าวย่างแต่ละก้าวในปัจจุบันให้ดีที่สุดดีกว่า
เขียนโดย 学诚法师
ที่มา http://foxue.qq.com/a/20171026/025092.htm
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ทำไมผมจึงเลิกกินเนื้อสัตว์
วันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลาประมาณบ่ายโมง ผมกุมมือแม่อยู่ข้างเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล พร่ำพูดที่ข้างหูของแม่ว่าให้นึกถึงความดี...
-
โลกเรานี้ยังมีชนเผ่าที่แปลก ๆ อยู่ไม่น้อยเลย หลาย ๆ ชนเผ่ามีเอกลักษณ์ที่ประหลาดพิสดารอย่างเหลือเชื่อ เช่น มีชนเผ่าหนึ่งอยู่บนเกา...
-
ถั่วลิสงเป็นอาหารที่คนจีนนิยมกินกันมาแต่โบราณ ว่ากันว่า การกินถั่วลิสงสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดและป้องกันโรคหัวใจ...
-
ใกล้จะครบสามเดือนแล้วที่ฉันได้เลิกกินเนื้อสัตว์ บางคนคิดว่าฉันเลิกเนื้อสัตว์เพื่อรักษาสุขภาพ บางคนก็คิดว่าฉันต้องการรักษารูปร่าง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น