31 ต.ค. 2560

มักน้อย ใจพอ อิสรภาพ เสมอภาค


        ถามว่าทำอย่างไรจึงจะมีความสุข? พระพุทธเจ้าได้บอกเราไว้แล้วว่า ต้องมักน้อยและปล่อยวาง ต้องลดความยึดติดในความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ส่วนการปล่อยวางก็คือปล่อยให้เป็นไปตามธรรม แล้วเราก็จะได้อิสรภาพทั้งทางกายและใจ ดังนั้น ที่เราถาม ๆ กันว่า เป้าหมายของการปฏิบัติธรรมคืออะไร? ก็คืออิสรภาพ ความหลุดพ้นก็เห็นได้จากอิสรภาพนี้แหละ เมื่อเราไม่ถูกผูกมัดด้วยกิเลส (เหตุแห่งความเศร้าหมอง) เราก็ถึงความหลุดพ้น เราก็ได้รับอิสรภาพใช่มั้ยล่ะ

        แล้วอิสรภาพมันเป็นอย่างไรน่ะหรือ มีอยู่สองอย่าง คือกายกับใจ ชีวิตทุกคนบนโลกต้องมีสองอย่างนี้ ถ้าร่างกายของเราไม่มีโรค ถือว่ามีบุญบารมีมาก ร่างกายจึงมีอิสรภาพ และถ้าใจของเราไม่มีกิเลสครอบงำ ใจก็มีอิสรภาพ อิสรภาพทางร่างกายเกิดจากผลแห่งกุศลที่ได้ทำมา อิสรภาพทางใจเกิดจากความไม่มีกิเลสและความมีปัญญา เรามาปฏิบัติธรรมกันก็หวังว่า เมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ร่างกายจะไม่ต้องเจ็บป่วยทุกข์ทรมาน จิตใจจะไม่ต้องมีความโลภอยากได้นั่นได้นี่อีก การที่ร่างกายไม่มีความเจ็บป่วยก็คืออิสรภาพทางกาย จิตใจไม่มีความโลภก็คืออิสรภาพทางใจ นี่คือเป้าหมายของการปฏิบัติธรรม

        ดังนั้น ตามที่ได้บรรยายไปแล้วนี้ ความมักน้อยจึงสำคัญเพราะเป็นหลักประกันของความสุขได้ ทุกวันนี้ทำไมครอบครัวหลาย ๆ ครอบครัวจึงไม่มีความสุข จริง ๆ ก็เกิดจากคนในครอบครัวมีความอยากที่มากเกินไปนั่นแหละ มีคนจำนวนมากที่ออกไปดิ้นรนทำงานทำการอยู่นอกบ้านใช่มั้ย ผู้ชายออกไปทำงานหาเงินก็แล้ว ผู้หญิงก็ออกไปทำงานหาเงินด้วยเหมือนกัน เลยไม่มีคนอยู่ดูแลอบรมลูกที่บ้าน ไม่มีคนเลี้ยงดู ต่อไปก็จะกลายเป็นปัญหาสังคม เราจะหาเงินมากมายไปทำไมกัน ออกไปกินดื่มสังสรรค์อยู่นอกบ้านทั้งวัน ต้องไปออกงานสังคมต่าง ๆ จนไม่มีคนดูแลเรื่องในบ้าน ทั้งผู้ชายผู้หญิงก็ออกไปทำงานกันหมด ลูกก็ไม่มีคนใส่ใจดูแล คำโบราณของจีนที่ว่า "ช่วยสามีอบรมสั่งสอนบุตร" นั้นเป็นแนวคิดอย่างไร ผู้ชายออกไปทำงานนอกบ้าน ผู้หญิงอยู่บ้านต้องดูแลลูกให้ดี เรื่องนี้ก็เป็นคุณประโยชน์ต่อสังคมที่สำคัญอย่างหนึ่งเหมือนกัน ถ้าเราอบรมสั่งสอนลูกดี ปลูกฝังสิ่งดีให้ลูกได้ ต่อไปเราก็จะไม่มีปัญหา แต่ถ้ามัวแต่ทำงานหาเงินอยู่ข้างนอก แม้ได้เงินทองมากองเต็มบ้าน แต่ลูกอยู่บ้านเสพยา เหมือนลูกของดาราบางคนนั่นแหละ ติดยาเสพติดไปแล้ว เป็นเรื่องน่าเศร้าจริง ๆ บ้านเขามีพร้อมทุกอย่าง แต่ลูกติดยา มันน่าเศร้ามั้ยล่ะ ดังนั้น เราจึงต้องดูแลอบรมลูกให้ดี เรื่องนี้เราต้องยอมสละเวลาจึงจะทำสำเร็จได้ ไม่ใช่ว่าจะออกไปทำงานพร้อมกันทีเดียวทั้งสองคน

        สมัยนี้เราส่งเสริมเรื่องความเสมอภาคกัน ในแง่ของการให้เกียรติกันเราพูดได้ว่าชายหญิงเสมอภาคกัน ในแง่ความเป็นมนุษย์ก็เสมอภาคเช่นกัน แต่ในด้านบทบาทหน้าที่ตามความเป็นจริงแล้ว ชายและหญิงจะทำหน้าที่อย่างเดียวกันเลยหรือไม่ เช่นของหนักห้าสิบกิโลกรัมให้ผู้ชายไปยกยังพอได้ แต่ถ้าให้ผู้หญิงไปยก มันไม่ไหว ใช่มั้ย? หรือการคลอดลูก จะให้ผู้ชายทำบ้าง มันทำได้หรือ? อันนี้มันไม่เสมอภาคแล้ว มีแต่ผู้หญิงที่คลอดลูกได้ ถูกมั้ย ดังนั้น เราจึงบอกว่าในครอบครัว ให้แม่ต้องอยู่บ้านอบรมเลี้ยงดูลูกให้ดี งานนี้ก็เป็นการทำประโยชน์แก่สังคมได้เหมือนกับผู้ชายที่ออกไปทำงานนอกบ้าน มีคุณค่าเสมอภาคกัน แต่สมัยนี้ที่เราบอกว่าส่งเสริมความเสมอภาคกันนั้น กลับไปเข้าใจเรื่องนี้กันอย่างผิด ๆ ให้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงออกไปทำงานหาเงินกันทั้งคู่ แต่ละคนก็ต้องไปออกงานพบปะสังสรรค์ทั้งวี่ทั้งวันจนไม่ได้กลับบ้านกลับช่อง ลูกที่อยู่บ้านไม่มีคนดูแลเลย ถ้าเป็นอย่างนี้รับรองว่าสังคมมีปัญหาแน่

        อาตมาเคยไปเห็นมาในต่างประเทศ ชีวิตพวกเขาไม่เหมือนอย่างพวกเราในจีนเท่าไร พวกเขาดูสบาย ๆ และมีอิสระมาก เวลาทำงานก็คือทำงาน แต่นอกเวลางานแล้วต่อให้มีลูกค้ามาเท่าไรเขาก็ไม่รับ จึงมีบางคนพอไปถึงโรงแรมในต่างประเทศ บางโรงแรมพอถึงสองทุ่มก็ไม่มีพนักงานอยู่เวรแล้ว ถ้าเราไปถึงโรงแรมหลังสองทุ่มก็เข้าพักไม่ได้ แต่ที่เมืองจีนของเรานี่ ขอให้มีลูกค้ามาเถอะ จะกี่โมงกี่ยาม ไม่ต้องหลับไม่ต้องนอนก็ยังจะรับอยู่ ใช่มั้ย? นี่ก็เป็นความอยากอย่างหนึ่งเหมือนกัน มันจึงนำมาซึ่งทุกข์ยังไงล่ะ


โดย 本源法师
ที่มา http://foxue.qq.com/a/20171027/024433.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ทำไมผมจึงเลิกกินเนื้อสัตว์

        วันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลาประมาณบ่ายโมง ผมกุมมือแม่อยู่ข้างเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล พร่ำพูดที่ข้างหูของแม่ว่าให้นึกถึงความดี...