9 ส.ค. 2560

กินมังสวิรัติอย่างไรจึงกลายเป็นบาปได้



        สิ่งสำคัญที่สุดในการเรียนรู้ศาสนาพุทธก็คือการตั้งความเห็นให้ถูกและตรง หรือเป็นสัมมาทิฏฐิ หากไม่มีความเห็นที่ถูกตรง เน้นการปฏิบัติอยู่แค่รูปแบบ ไม่เพียงแต่จะมีมรรคผลได้ยากแล้ว ยังอาจจะเป็นการเดินสวนทางกับธรรมะของพระพุทธเจ้าด้วยก็ได้

        ยกตัวอย่าง นักปฏิบัติธรรมบางคนที่ปฏิญาณตนถือเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งมานานหลายปีแล้ว มีชีวิตที่พอเพียงเรียบง่าย ขยันพากเพียรในการปฏิบัติ สามารถกินมังสวิรัติได้อย่างต่อเนื่อง แต่พอเห็นสาวกของศาสนาพุทธท่านอื่นกินเนื้อสัตว์ ก็เกิดความรู้สึกต่อต้านทันที ถือเอาส่วนดีของตนไปตีค่าส่วนด้อยของผู้อื่น แล้วก็ไปตำหนิเขา ดูหมิ่นเขา คนแบบนี้แม้กินมังสวิรัติ จะยังเป็นบุญอยู่หรือ? จะสามารถช่วยให้การปฏิบัติธรรมมีความก้าวหน้าได้หรือ? ไม่ได้แน่นอน การกินมังสวิรัติแบบนี้เป็นการยึดมั่นถือมั่นอย่างหนึ่ง ถือว่าเป็นการสร้างวิบากบาปเสียด้วยซ้ำ

        คนที่สามารถกินมังสวิรัติได้ก็ถือว่าหาได้ยากแล้ว ควรที่จะอนุโมทนาสาธุด้วย แต่ทว่า หากไม่มีความเห็นที่ถูกตรง การกินมังสวิรัติกลับจะกลายเป็นการเพิ่มกิเลสให้หนาขึ้น ถ้าหากว่ามีสาวกในพุทธศาสนาที่กินมังสวิรัติผู้ใดก็ตาม เมื่อเห็นว่าผู้อื่นกินมังสวิรัติไม่ได้ ปฏิกิริยาแรกก็คือการดูถูกเขา แบบนี้การกินมังสวิรัติก็จะกลายเป็นเหตุของการดูหมิ่นผู้อื่น ปฏิกิริยาต่อมาคือ จะเกิดความคิดในใจว่า "เขาทำไม่ได้ แต่เราสิทำได้" รู้สึกว่าตนเองเป็นเลิศกว่าผู้อื่น แบบนี้การกินมังสวิรัติก็จะกลายเป็นเหตุแห่งการเพิ่มอัตตามานะ คำโบราณกล่าวว่า "อัตตาข้าสูงดังขุนเขา คือกำแพงกั้นสายธารธรรม" การกินมังสวิรัติแบบนี้ นอกจากจะไม่ช่วยให้ก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมแล้ว ยังจะทำให้กิเลสพอกหนาขึ้นด้วย

        เป้าหมายของการปฏิบัติธรรมคือการลดและถอนกิเลสให้สิ้นเกลี้ยง ไม่ใช่การเพิ่มกิเลสเลย สิ่งที่เราทำได้ คนอื่นอาจจะยังทำไม่ได้ สิ่งที่คนอื่นทำได้ เราอาจจะยังทำไม่ได้ เราไม่ควรเอาส่วนดีของตนเองไปเปรียบเทียบกับส่วนด้อยของผู้อื่น แต่น่าที่จะเอาส่วนดีของผู้อื่นมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่เรายังด้อยอยู่ เพื่อให้เห็นว่าเรายังทำได้ไม่ดีพอ จะได้พยายามแก้ไขปรับปรุงและลดละกิเลสของตนเองให้น้อยลง เพื่อให้เข้าสู่เป้าหมายของการปฏิบัติอย่างแท้จริง

        พระปัญญาคุณและพระกรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้านั้นเปี่ยมล้นหาที่เปรียบมิได้ ธรรมะของพระพุทธเจ้ามีอานิสงส์อย่างมาก และเป็นความรู้ในทางกุศล เป็นคำสอนชี้นำชีวิตที่ถูกตรง หากการปฏิบัติของเราทั้งกาย วาจา ใจ ยังไม่สมบูรณ์รอบถ้วน หรือข้ามไปทางด้านสุดโต่ง เน้นแต่รูปแบบเสียแล้ว ก็จะกลายเป็นการเพิ่มกิเลสไปได้ อาการอย่างนี้อาจจะเกิดจากผลแห่งวิบากที่ยังมีความมืดอยู่ อาจจะยังยอมรับพระพุทธเจ้าหรือคำสอนที่เป็นความรู้ในทางกุศลไม่ได้ ยังไม่เกิดความเห็นที่ถูกตรง ยังไม่เป็นสัมมาทิฏฐิ ยังไม่สามารถเปิดเผยให้เห็นคุณภาพอันยอดเยี่ยมในจิตใจของเรา คือธาตุจิตที่มีเมตตาและปัญญา เพราะเหตุแห่งจิตภายในที่มีคุณภาพอันยอดเยี่ยมนี้เองที่เมื่อถูกเปิดออกให้เห็นแล้วอย่างแท้จริง กิเลสในตัวเราจะลดลงได้ ทำอย่างนี้จึงจะเรียกได้ว่าเป็นการปฏิบัติธรรมที่แท้จริง จึงจะสามารถเหนี่ยวนำให้ผู้อื่นเห็นตามได้ สามารถทำประโยชน์ให้แก่สัตว์ทั้งปวงได้

        ด้วยเหตุนี้ ในฐานะสาวกของพระพุทธศาสนา เราจึงต้องถือเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ปฏิบัติตามคำสอน สร้างความเห็นที่ถูกตรง ให้เกิดสัมมาทิฏฐิ เปิดเผยเมตตาและปัญญาในจิตของเรา และนำมาปฏิบัติในการดำเนินชีวิตจริง ทำให้คนในสังคมสัมผัสรับรู้ได้ถึงความลึกซึ้งยิ่งใหญ่ของศาสนาพุทธ นี่คือหน้าที่และความรับผิดชอบของเราในฐานะสาวกในพุทธศาสนา ความรับผิดชอบนี้สามารถเริ่มต้นด้วยการไม่ทำร้ายชีวิตสัตว์ การไม่ทำร้ายชีวิตสัตว์ก็ควรจะเริ่มจากการกินมังสวิรัติ และการกินมังสวิรัติก็ควรจะเริ่มจากการปฏิบัติที่จิตก่อน เมื่อเราเห็นคนอื่นกินเนื้อสัตว์ ควรจะทำใจยอมรับและประนีประนอม เปิดใจให้กว้าง ฝึกทำความเห็นของตนให้สะอาดบริสุทธิ์ ทำให้เราก้าวเข้าสู่ทางแห่งการหลุดพ้นให้ได้ แล้วเราก็จะยิ่งทำประโยชน์ให้แก่สัตว์ทั้งปวงได้มากขึ้น


เขียนโดย 太桥旦曾堪布
ที่มา http://rufodao.qq.com/a/20160816/021930.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ทำไมผมจึงเลิกกินเนื้อสัตว์

        วันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลาประมาณบ่ายโมง ผมกุมมือแม่อยู่ข้างเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล พร่ำพูดที่ข้างหูของแม่ว่าให้นึกถึงความดี...