4 ก.ย. 2560

เลิกเสพยาได้ด้วยพลังแห่งธรรมะ



        ฉันชื่อจิ้งซิน (净心) อายุ ๔๘ ปี เกิดที่เมืองหนานชาง มณฑลเจียงซี ในครอบครัวที่พ่อแม่ทำงานประจำกินเงินเดือน ในช่วงปี ๑๙๗๐-๑๙๗๙ พ่อแม่มีงานที่มั่นคง พี่ชายและพี่สาวทำธุรกิจ ครอบครัวจึงมีฐานะค่อนข้างดี ฉันเป็นน้องคนสุดท้องในบ้าน จึงได้รับความรักความเอ็นดูมากจากทุกคนในครอบครัว ช่วงนั้นฉันยังเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาด ว่านอนสอนง่าย เรียบร้อยและน่ารัก คนแถวบ้านตั้งฉายาให้ฉันว่า คุณหนูหลินไต้อวี้ (ตัวละครเอกในนิยายคลาสสิคจีนเรื่องความฝันในหอแดง)

        ช่วงปี ๑๙๘๐-๑๙๘๙ ฉันเรียนจบมัธยมต้นแล้ว เป็นแฟนกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่บ้านอยู่ในละแวกเดียวกัน เราฟังเพลงของเติ้งลี่จวินด้วยกัน คุยกันถึงกิมย้ง (金庸) ฉวงเหยา มีเรื่องคุยกันได้เยอะมากไม่มีเบื่อ เรามองอนาคตอย่างมีความหวังและสวยงาม ด้วยความที่ชอบอะไรตรงกันหลายอย่าง คบกันไม่นานก็ได้แต่งงาน สามีฉันออกไปทำงานรับจ้างขนส่งสินค้า ไปเหนือล่องใต้ ธุรกิจเจริญรุ่งเรืองดี ครอบครัวฉันกลายเป็นที่อิจฉาของคนอื่น ฉันทำหน้าที่เป็นแม่บ้านอย่างเดียว ตั้งหน้าตั้งตาเลี้ยงลูกสองคนอย่างเต็มที่

        เวลาผ่านไปเร็วมาก จนถึงปี ๑๙๙๔ หลังจากการพากเพียรสู้งานอยู่สิบกว่าปี ธุรกิจของสามีก็เติบโตขึ้นอย่างราบลื่น ฐานะครอบครัวก็ร่ำรวยขึ้น ลูกชายอายุ ๘ ขวบเข้าเรียนประถมแล้ว ลูกสาวอายุ ๕ ขวบก็กำลังจะเข้าโรงเรียน ครอบครัวเราสี่คนกำลังมีความสุข เป็นที่ชื่นชมยินดีของเพื่อนบ้านไปทั่ว

        และในปีนั้นเอง เคราะห์กรรมก็ทำให้ชีวิตฉันพลิกผันไปอย่างน่าใจหาย เพราะความที่คบเพื่อนไม่ดูให้ดีก่อน ทำให้ฉันหลงไปติดยาเสพติดเข้า ตั้งแต่นั้นมาก็เหมือนตกนรกหมกไหม้ มองย้อนกลับไปตอนนั้นแล้วรู้สึกสำนึกเสียใจจริง ๆ เจ็บใจมากที่ย้อนเวลากลับไปไม่ได้ แต่ความเสียใจก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว

        ทีแรกฉันไม่รู้หรอกว่ามันคือยาเสพติด รู้แต่ว่าตอนเสพมันจะรู้สึกสบายตัวอย่างมาก เหมือนล่องลอยอยู่ในสวรรค์ เริ่มจากการสูบ และต่อมาเป็นการฉีดเข้าเส้น ทั้งเฮโรอีน ยาไอซ์ ยาอี ยาบ้า กัญชา ฉันเคยเสพมาหมด อันตรายของการเสพยาก็คือพอติดแล้วมันจะเลิกยากมาก เวลาต้องการเสพจะมีอาการน้ำตาไหล น้ำมูกไหล น้ำลายไหล ในกระดูกเหมือนมีมดกัดเป็นพันเป็นหมื่นตัว ทรมานมาก ที่ทรมานที่สุดคือใจ จิตใจมันจะทุกข์ทรมานสุด ๆ ถ้าไม่มียาให้เสพ ความรู้สึกนั้นมันสุดจะบรรยาย เหมือนตายดีกว่าอยู่ จริง ๆ แล้วสามีก็ไม่พอใจมากที่ฉันเสพยาและไม่อยากให้เสพเลย แต่พอเห็นสภาพที่ฉันต้องทุกข์ทรมานจนสิ้นหวังและอยากตาย กับความสงสารลูก ๆ ด้วย จึงจำใจยอมให้ฉันเสพต่อไป ค่าใช้จ่ายสำหรับยาที่ฉันเสพตกวันละประมาณ ๔๐๐ หยวน (ประมาณ ๒,๐๐๐ กว่าบาท) ถือว่าเป็นเงินเยอะมากในสมัยนั้น ฐานะครอบครัวต้องย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ เพราะเรื่องนี้ ช่วงนั้นฉันต้องทะเลาะกับสามีแทบทุกวัน

        เพราะการติดยา ฉันไม่มีแก่ใจจะดูแลลูกและงานในบ้านเลย บรรยากาศในบ้านเหมือนมีสงครามเย็น ทำให้เด็ก ๆ รู้สึกกลัว ลูกชายค่อย ๆ เปลี่ยนนิสัยกลายเป็นเด็กเงียบขรึมเก็บตัว กลายเป็นเด็กมีปมด้อย และค่อย ๆ ทำตัวเหินห่างจากแม่ไป นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรก็รู้สึกเจ็บปวดในใจมาก เจ็บใจตัวเองที่ไม่สามารถให้ชีวิตวัยเด็กที่อบอุ่นแก่ลูกได้ ฉันเป็นแม่ที่ให้ชีวิตที่ดีและมีความสุขกับลูกไม่ได้

        พ่อแม่และพี่ ๆ ก็ต้องมาเป็นทุกข์เพราะฉันด้วย พวกเขามีปากเสียงทะเลาะกับแม่สามีฉันด้วย พวกเขาโทษว่าเป็นเพราะสามีฉันยอมตามใจมากไปจนทำให้ฉันต้องติดยา ในที่สุดก็ถึงขั้นต้องหย่าร้าง ครอบครัวสุขสันต์จึงต้องจบสิ้นลงก็เพราะเหตุนี้

        การเสพยาเป็นโทษทั้งต่อตนเองและผู้อื่น มันเหมือนการก้าวสู่เส้นทางที่ไม่มีทางย้อนกลับ การเลิกยาเป็นเรื่องยากระดับโลก เวลาอยากยาขึ้นมา พี่ ๆ ทนเห็นฉันทุกข์ทรมานไม่ไหว ต้องจำใจยอมเอาเงินให้ฉันไปซื้อยาเสพ เงินที่แม่สะสมไว้ก็เหลือไม่มากแล้ว เรื่องของฉันกลายเป็นหัวข้อซุบซิบนินทาของคนบ้านใกล้เรือนเคียงไปเสียแล้ว คุณหนูหลินไต้อวี้ในอดีต มาวันนี้ได้ตกต่ำจนกลายเป็นไอ้ขี้ยาไปเสียแล้ว

        โบราณว่าลูกสาวคือดวงใจของพ่อแม่ เพราะฉันติดยา แม่จึงเสียใจมาก แม่เคยเอาโซ่มาล่ามฉันเอาไว้ ขังเอาไว้สองอาทิตย์ พอปล่อยออกมาฉันก็ยังต้องเสพเหมือนเดิม แม่กลายเป็นคนอารมณ์รุนแรงมากขึ้นทุกที ด่าว่าฉันอยู่บ่อย ๆ ส่วนฉันนั้นนอกจากจะไม่สำนึกแล้ว ยังคิดย้อนไปโทษแม่อีกว่าเลี้ยงดูอบรมมาไม่ดีเอง หารู้ไม่ว่าที่แม่ด่าก็เพราะรู้สึกสิ้นหวังกับฉันจนไม่รู้จะทำอย่างไรได้แล้ว

        เพื่อให้ฉันกลับเนื้อกลับตัวได้ แม่เริ่มไปปฏิบัติธรรม กินเจ สวดมนต์ ไปตามวัดต่าง ๆ อธิษฐานขอพรจากพระ ขอให้เกิดปาฏิหาริย์กับฉัน จนถึงปี ๒๐๑๕ แม่ลาจากโลกไปด้วยความเสียใจตอนอายุได้ ๘๐ ปี แต่ยังดีที่ในบั้นปลายท่านได้วางใจเข้าสู่ธรรมะแล้ว มีศรัทธาตั้งมั่น ก่อนตายยังได้พระอาจารย์มาช่วยสวดมนต์ให้ ขอให้ดอกบัวแห่งธรรมของท่านจงสว่างไสวในแดนสุขาวดีด้วยเถิด

        อันที่จริง ในใจของคนติดยาทุกคนลึก ๆ แล้วล้วนมีความเจ็บช้ำน้ำใจอยู่ไม่น้อย ฉันก็เหมือนกัน แม่ลาจากโลกไป บ้านแตกสาแหรกขาด พี่น้องกลุ้มใจ ลูก ๆ ผิดหวัง ทำให้ฉันอยู่อย่างไม่มีความสุขเลย ตอนที่แม่เสียชีวิต ฉันได้ยินว่าพระอาจารย์ที่มาสวดมนต์ให้ก็เคยติดยามาก่อน แต่เมื่อได้อบรมตนเองให้อยู่ในธรรมะ ท่านก็เลิกยาได้สำเร็จ คนในครอบครัวจึงคะยั้นคะยอให้ฉันลองดูบ้าง

        ปลายเดือนพฤษภาคมปี ๒๐๑๖ ฉันมาถึงวัดตงหลิน โดยมีพี่ชายและพี่สาวมาเป็นเพื่อน ณ ศาลาวัดอันเก่าแก่ สงบเงียบและน่าเคารพแห่งนี้ เหมือนมีพลังงานแผ่ซ่านออกมา ทำให้จิตใจที่สับสนวุ่นวายของฉันสงบลงได้ ชีวิตในวัดต่างจากที่ฉันคิดไว้อย่างสิ้นเชิง ทุกคนต่างมีความเป็นมิตรและเอื้ออาทร ไม่ได้มีความรู้สึกว่าคนเหล่านี้กำลังหลีกหนีจากโลกอย่างที่เคยคิดไว้เลย

        และก็บังเอิญจริง ๆ ฉันได้พบกับเพื่อนหลายคนที่ติดยามาเหมือนกัน พวกเขาก็หวังว่าจะมาอาศัยพลังแห่งธรรมะเพื่อขับไล่มารร้ายที่น่าชิงชังนี้ออกไปจากชีวิตเหมือนกัน พระอาจารย์ที่วัดเป็นผู้มีเมตตาอย่างมาก ไม่ได้เมินเฉยหรือรังเกียจพวกเราที่ดูเหมือนจะนอกคอกเลย แถมยังตั้งกลุ่มปฏิบัติธรรมพิเศษขึ้นให้พวกเราด้วย มอบหมายให้พระมาเทศนาให้พวกเราฟัง ถึงแม้ว่าพวกเราจะแต่งกายอย่างคนโลก ๆ ทั่วไป แต่ชีวิตในวัดก็ไม่ต่างอะไรจากนักบวชเท่าไร ลุกจากที่นอนตั้งแต่ตีสามกว่า ทำวัตรเช้า กินเจ ทบทวนธรรม กลางวันยังเดินกราบพระเจดีย์แบบธิเบต (เดินสามก้าวแล้วกราบหนึ่งครั้ง) ทีแรกมันก็ทำให้ร่างกายอ่อนเปลี้ยมาก แต่อดทนฝืนทำไปสักพักก็รู้สึกว่าร่างกายมีกำลังดีขึ้น โดยเฉพาะหลังจากรับศึลห้าแล้ว รู้สึกได้ถึงพลังอานิสงส์ ความศรัทธาค่อย ๆ หยั่งรากลงในจิตใจ ก่อให้เกิดพลังอย่างมหาศาล
ช่วงเวลานั้น ฉันได้เรียนรู้การสำนึกขอบคุณ สำนึกยอมรับผิด และมีจิตโน้มไปในบุญกุศล ความรู้สึกว้าวุ่นก็เบาบางลง อาการลงแดงอยากยาก็ลดจำนวนครั้งลง จนปัจจุบันก็ถือว่าเลิกยาได้แล้ว

        ฉันคิดว่าจะเลิกยาได้สำเร็จ ต้องมีปัจจัยหลักสามข้อคือ ความปรารถนาที่แรงกล้า แนวทางที่ชัดเจนแน่วแน่ และสภาพแวดล้อมที่ดี จะขาดอันใดอันหนึ่งไม่ได้

        ก่อนมาที่วัด หลาย ๆ คนรวมทั้งลูกชายฉันเองด้วย ไม่คิดว่าฉันจะทำได้ แต่ฉันคิดว่ามีคนที่ทำสำเร็จให้ดูแล้วเป็นตัวอย่าง คนอื่นทำได้ทำไมฉันจะทำไม่ได้ ฉันจึงตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ต่อให้ต้องเสียอวัยวะไปก็จะไม่ยอมทำให้คนที่เชียร์อยู่ต้องผิดหวัง ฉันจะไม่ยอมให้ยาเสพติดมันทำลายชีวิตฉันอีกต่อไปเด็ดขาด ตอนนี้ก็ได้ผลสำเร็จมาระดับหนึ่งแล้ว และมีความมั่นใจมากว่าจะเลิกได้อย่างเด็ดขาด ฉันไม่ได้ทำให้พวกเขาผิดหวัง เวลาของชีวิตที่เหลือจากนี้ ฉันจะปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง สัญญาว่าจะเป็นคนดี จะเติมเต็มหน้าที่ของคนเป็นภรรยา เป็นแม่ให้สมบูรณ์ที่สุด นอกจากนี้ จะหลีกห่างจากเพื่อนที่เสพยา ตัดขาดจากสิ่งแวดล้อมที่จะเหนี่ยวนำให้กลับไปหามันอีก ฉันคิดไว้ถึงขนาดที่ว่าจะอยู่ที่วัดสักหลายปี

        ขอบคุณวัดตงหลิน ขอบคุณทุกคนที่ห่วงใย และขอเตือนพี่น้องทั้งหลายให้รักใส่ใจในชีวิตให้มาก และจงอยู่ให้ห่างจากยาเสพติด


ผู้เขียน 净心
ที่มา http://foxue.qq.com/a/20170802/042458.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ทำไมผมจึงเลิกกินเนื้อสัตว์

        วันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลาประมาณบ่ายโมง ผมกุมมือแม่อยู่ข้างเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล พร่ำพูดที่ข้างหูของแม่ว่าให้นึกถึงความดี...