22 ก.ย. 2560

ความงมงายต่อพระพุทธเจ้า



        คนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะทำอะไรก็หวังว่าจะมีทางลัด คืออยากได้ประโยชน์แต่ไม่อยากลงทุนลงแรง ไม่อยากเสียเวลาไม่อยากลำบาก ทางลัดที่ว่านั้นเป็นอย่างไรล่ะ?

        หลายคนพอคิดถึงพระพุทธเจ้า คิดถึงพระศากยมุนีศาสดาเจ้า ก็จะคิดไปว่า ในเมื่อธรรมะของพระองค์นั้นดีเลิศอย่างยิ่ง จะต้องสามารถคุ้มครองเขาให้แคล้วคลาดจากเคราะห์กรรมได้ หรือทำให้ร้ายกลายเป็นดีได้อย่างแน่นอน ดังนั้น ทุกวันนี้จึงกลายเป็นกระแสไปเสียแล้ว คือผู้คนพากันไปวัดเพื่อจุดธูปเทียนกราบไหว้พระพุทธเจ้ากันมากมาย 

        สหายเอย หากมีเวลาก็ลองแวะไปเที่ยววัดดูบ้างเถิด ก็จะเห็นทีเดียวว่า ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็มีคนเข้าออกวัดอยู่เสมอ ผู้คนจอแจพลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา ทั้งจุดธูปเทียน บริจาคให้ทาน กราบไหว้ ขอพร เสี่ยงทาย ฯลฯ บางคนมาเพื่อขอให้พระคุ้มครองปัดเป่าเภทภัย บางคนมาเพื่อขอให้โชคดีมีลาภไปตลอด บางคนมาเพื่อขอให้ได้ยศได้ตำแหน่ง มีกระทั่งเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำทุจริตแล้วมาขอให้พ้นจากความผิดไม่ต้องติดคุกติดตาราง ขอให้ชีวิตร่ำรวยรุ่งเรืองเฟื่องฟูไปตลอดกาลนาน อะไรที่ใหญ่ ๆ โต ๆ ในโลกทั้งหลายแหล่ก็เอาหมด ขอกันตะพรึดตะพรือ

        พระพุทธเจ้าไม่ใช่เทพไม่ใช่เซียน และไม่ใช่พระเจ้าผู้กอบกู้โลก พระองค์เป็นผู้รอบรู้ แต่ไม่ใช่ผู้ดลบันดาลสรรพสิ่ง

        ในโลกนี้มีคนคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยให้เราหลุดพ้นจากห้วงทะเลแห่งทุกข์ได้ นั่นก็คือตัวเราเอง เป็นตัวของเราเองกับดวงจิตเดิมที่มีปัญญาเท่านั้นจะทำได้

        พุทธคืออะไร พุทธก็คือผู้ที่ตื่นรู้ คือผู้ที่เข้าใจสัจจะของชีวิตและจักรวาลอย่างถ่องแท้ คือผู้มีจิตใจอันประกอบด้วยปัญญาอันยิ่ง

        พุทธเป็นครูที่ดีและเป็นมิตรที่ชี้ประโยชน์แก่เรา คือพ่อผู้เมตตาและพี่ชายที่เอื้ออาทร พุทธคือท่าน พุทธคือเรา พุทธคือเขา พุทธคือเราทุก ๆ คน

        พุทธจะใคร่ครวญชีวิตไปพร้อม ๆ กันกับเรา พุทธจะแสวงหาสัจจะของจักรวาลไปด้วยกันกับเรา

        พุทธคือผู้ที่ชี้ทางออกจากกิเลสอันเศร้าหมองแก่เรา ขอเพียงแต่เราปฏิบัติตามคำสอนอันเปี่ยมเมตตาของพุทธ ก็จะสามารถแก้ไขเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้ เมื่อต้องพบกับความทุกข์ยากลำบากก็สามารถคลี่คลายให้เป็นความผาสุกเบิกบานได้

        ขอเพียงมีพุทธในใจ พุทธก็จะอยู่ในทุกที่ ขอเพียงมีพุทธในใจ พุทธก็จะมีอยู่ในทุกเมื่อ

        การเรียนรู้ในพุทธเป็นวิชาที่เน้นที่การปฏิบัติจริงอย่างยิ่ง หากจะถามว่าการเรียนรู้ในพุทธมีเคล็ดลับอะไร เคล็ดลับที่ว่าก็คือการปฏิบัติให้รู้จริงด้วยตนเอง

        เคล็ดลับของการเรียนรู้ฝึกปฏิบัติในพุทธก็คือการพากเพียรทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้าทีละเล็กทีละน้อยในชีวิตประจำวันของเรานี่เอง 

        หาใช่การละเลยต่อการทำชั่วเล็ก ๆ น้อย ๆ หาใช่การทำปากอย่างใจอย่าง หาใช่การเอาแต่พูดแล้วไม่ทำจริง

        พุทธไม่ได้อยู่บนสวรรค์ พุทธไม่ได้อยู่ในวัดวาอาราม พุทธอยู่ในใจของเราทุกคน

        การปฏิบัติธรรมไม่ใช่การทำเพื่อให้ผู้อื่นดู การอ่านพระคัมภีร์ก็ไม่ใช่เกมทางภาษาที่ทำให้ดูลึกซึ้งสูงส่ง การที่สามารถเอ่ยอ้างข้อความบางตอนจากพระคัมภีร์ได้ก็ไม่ใช่เพื่อแสดงภูมิรู้ให้ผู้อื่นเห็น เราไม่ได้ปฏิบัติธรรมเพื่อจะได้ชื่อว่าปฏิบัติธรรม ไม่ได้ท่องคัมภีร์เพื่อให้ได้ชื่อว่าท่องได้


        พุทธธรรมได้บันทึกถึงการแสวงหาและใคร่ครวญของพระพุทธเจ้าต่อกฎเกณฑ์ของชีวิต ของจักรวาล และของธรรมชาติ พุทธธรรมได้ให้วิธีการแก่สัตว์ทั้งหลายในการพิจารณาสัจจะแห่งจักรวาล บุกเบิกทางปัญญา และบรรลุแจ้งแห่งภาวะในจิตของตนเอง

        เป้าหมายของการปฏิบัติธรรมคือการหาหนทางกลับสู่ฐานจิตเดิมอันสงบ สว่าง และมีปัญญาของเราเอง เป้าหมายของการปฏิบัติธรรมก็เพื่อช่วยให้สัตว์ทั้งปวงสามารถบรรลุถึงความหลุดพ้นได้อย่างแท้จริง สามารถพ้นจากทุกข์และเป็นสุขอย่างแท้จริง

        พุทธอยู่ที่หุบเขา หุบเขานั้นก็คือใจของท่านเอง ทุกคนต่างก็มีองค์พระเจดีย์บนเขา ที่ปฏิบัติของท่านก็อยู่ในพระเจดีย์นั้นเอง จงอย่าลืมหนทางกลับสู่บ้าน จงอย่าหลงลืมตนเอง


เขียนโดย 佛子 วัดจี๋เล่อ ฮาร์บิน
ที่มา https://view.inews.qq.com/a/20170906A00UKK00

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ทำไมผมจึงเลิกกินเนื้อสัตว์

        วันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลาประมาณบ่ายโมง ผมกุมมือแม่อยู่ข้างเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล พร่ำพูดที่ข้างหูของแม่ว่าให้นึกถึงความดี...