29 พ.ค. 2561

เหตุและผลของทุกเหตุการณ์



        因果 (อิน-กว่อ) ในภาษาจีนเป็นคำสำคัญคำหนึ่งของศาสนาพุทธ แปลความหมายตามตัวอักษรก็คือ เหตุ (因) และผล (果) แต่ที่มาของศัพท์คำนี้มาจากคำว่า กรรม ในภาษาสันสกฤต

        คำว่า "กรรม" นี้ใคร ๆ ก็รู้จัก ใคร ๆ ก็พูดได้ แต่ความหมายของมันมีน้อยคนที่เข้าใจอย่างแท้จริง

        ขณะที่คนกำลังทำกรรมหรือ "เหตุ" ต่าง ๆ ที่เป็นบาปอกุศล เขามักไม่รู้ถึงโทษอันร้ายแรงของมัน จนกระทั่ง "ผล" แห่งวิบากนั้นมาถึง เขาถึงได้รู้ตัวว่าเกิดเรื่องเลวร้าย และเพิ่งจะมาสำนึกเสียใจก็สายไปแล้ว

        คนทั่วไปเมื่อพบกับความผิดพลาดล้มเหลว มักจะโทษฟ้าโทษดิน โทษผู้อื่น ไม่พอใจผู้อื่น แต่เขากลับไม่รู้เลยว่า "ผลนั้นเกิดแต่เหตุ" จะต้องมีเหตุที่ผิดพลาดอย่างแน่นอน จึงนำมาสู่ผลอย่างนั้นได้ คนบนโลกมักมองเหตุการณ์ต่าง ๆ อยู่แค่ส่วนที่เป็นผลบั้นปลายเท่านั้น ไม่ได้สาวให้ลึกไปถึงต้นเหตุของมัน

        ตัวอย่างเช่น เด็กบางคนมักโทษพ่อแม่ว่าไม่รักไม่เอ็นดู แต่หารู้ไม่ว่าที่พ่อแม่ไม่รักนั้นเกิดจากเหตุที่พวกเขาเป็นเด็กเกเร พ่อแม่บางคนมักโทษว่าลูก ๆ ไม่กตัญญู แต่หารู้ไม่ว่าเหตุเพราะพ่อแม่ทำแต่เรื่องแย่ ๆ จึงทำให้ลูก ๆ แหนงหน่าย 

        ดังนั้น เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ถ้าไม่สืบสาวไปให้ถึงต้นตอแห่งเหตุแล้วจะเข้าใจความเป็นจริงของมันได้อย่างไร แล้วจะทำให้เกิดความยุติธรรมหรือความชอบธรรมได้อย่างไร

        ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า เหตุ ที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นี้ก็คือ "กรรม" นั่นเอง ดังนั้น จะพูดอีกอย่างหนึ่งก็ได้ว่า เหตุการณ์ทุกอย่างบนโลกใบนี้ล้วนเกิดจากกรรมทั้งสิ้น ไม่มีอะไรบังเอิญ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นลอย ๆ

        คนหลายคนไม่เข้าใจเรื่องกรรมอย่างแท้จริงและมักจะเข้าใจผิดอยู่เสมอ เช่นบางคนกินมังสวิรัติ สวดมนต์เป็นประจำ เป็นคนมีเมตตาทำแต่กุศล แต่ทำไมยังเจอเหตุการณ์ร้ายอยู่อีก กฎแห่งกรรมหายไปไหน ทำไมไม่ส่งผลล่ะ แต่เขาไม่รู้เลยว่าในธนาคารแห่งกรรมของเขานั้นยังมีหนี้ค้างอยู่ แม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นคนดี ทำความดีแล้ว แต่หนี้ของเก่ายังไงก็ยังต้องใช้คืนอยู่ดี

        เช่นเดียวกัน มีบางคนทำบาปทำชั่วสารพัด ทั้งฆ่า ปล้นและสำส่อน แต่ก็ยังคงสามารถเสพสุขในลาภ ยศ สรรเสริญได้อย่างเต็มที่ ไหนล่ะกฎแห่งกรรม อันที่จริง เขายังมีเงินฝากอยู่ในธนาคารแห่งกรรมอยู่ แม้ว่าตอนนี้เขาจะทำชั่ว แต่เขาก็ยังมีสิทธิ์ใช้เงินฝากของเขาที่มีอยู่ก่อนได้ จึงสรุปว่า "กรรม" นั้นมีทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เกี่ยวเนื่องกันอยู่ในชาติก่อน ชาตินี้ และชาติหน้า

        ยามที่เราเห็นพืชพันธุ์ออกดอกออกผล ก็ย่อมเข้าใจได้ว่ามีคนหว่านเพาะมันไว้ก่อนแล้ว เช่นเดียวกัน เมื่อเราเห็นใครทำดีมีเมตตา ก็จะเข้าใจได้ว่าในอนาคตคนผู้นั้นจะต้องได้รับผลดีที่ทำไว้อย่างแน่นอน


ที่มา http://new.qq.com/omn/20180525/20180525A17B7J.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ทำไมผมจึงเลิกกินเนื้อสัตว์

        วันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘ เวลาประมาณบ่ายโมง ผมกุมมือแม่อยู่ข้างเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล พร่ำพูดที่ข้างหูของแม่ว่าให้นึกถึงความดี...